พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
เข้าสู่ระบบ
หน้าแรก
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ค้นหาข้อมูล
เข้าสู่ระบบ
เหรียญรุ่นสอง ส...
เหรียญรุ่นสอง สร้างโบสถ์ พ่อท่านกล่ำ วัดศาลาบางปู เนื้อทองแดงรมดำ
ซ.ต.พ. ( Q.E.D. ) เรื่องความศักดิ์สิทธิ์
เหรียญรุ่น 2 พ่อท่านกล่ำ วัดศาลาบางปู
สมัยเมื่อเรียนวิชาเรขาคณิต พอตอบเสร็จจะลงท้ายด้วย ซ.ต.พ. ซึ่งอาจารย์บอกว่าคือคำย่อของคำว่า ซึ่งต้องพิสูจน์ แต่มีนักวิชาการหลายคนคัดค้านว่า คำเต็มนี้ไม่ถูกเนื่องจากคำย่อนี้แปลมาจาก Q.E.D. ซึ่งเป็นคำย่อของภาษาละตินที่แปลว่า ได้พิสูจน์เสร็จสิ้นแล้วเพราะฉะนั้น คำย่อภาษาไทย (ซ.ต.พ.) ควรจะย่อมาจาก ซึ่งตามที่ได้พิสูจน์แล้ว
สำหรับผมเห็นว่าใช้ได้ทั้งคู่ สำหรับความหมายของภาษาละตินที่ว่า ได้พิสูจน์แล้ว ถ้าคุณเชื่อก็จบ ส่วนความหมายของไทยที่ว่า ซึ่งต้องพิสูจน์ เป็นคำพูดของคนตอบ คนให้โจทย์จะตรวจว่าถูกหรือไม่ต้องไปพิสูจน์ดู ทีนี้หลายคนคงสงสัยว่าผมนึกสนุกอะไร อยู่ ๆ ก็มาคุยเรื่องเรขาคณิต ขอเรียนว่าไม่ได้คึกคะนองอะไรหรอกครับ ขอถือโอกาสอรรถาธิบายเลยครับ
ที่กล่าวมาเพื่อใช้คำย่อทั้งสองคำนี้สรุปเป็นคำตอบถึงเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของเหรียญสร้างโบสถ์หรือเหรียญรุ่น 2 ของพ่อท่านกล่ำ วัดศาลาบางปู หรือที่ผมเรียกว่ารุ่นช่วยทำมาหากิน คือต้องใช้ทั้ง Q.E.D. และ ซ.ต.พ. นั่นคือผ่านการพิสูจน์มาแล้ว ส่วนคนที่ต้องการแสวงหาของดีของวิเศษ เพื่อนำมาใช้แต่ไม่แน่ใจว่าศักดิ์สิทธิ์จริงก็ต้องพิสูจน์
ตอนที่แล้วได้เล่าประสบการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าเหรียญรุ่นนี้ศักดิ์สิทธิ์จริง แต่แค่คนเดียว ซึ่งน้ำหนักอาจจะน้อย ตอนนี้ผมจะเล่าถึงคนที่ช่วยพิสูจน์อีกคนคือ คุณวุฒิศักดิ์ สุกใส เป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัท ลิสซิ่ง ในจังหวัดสุรินทร์ สนิทสนมกับคุณสุรฤทธิ์ ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินกู้ที่ผมเล่าไปเมื่อตอนที่แล้วนะครับเพราะกรณีนั้นคุณสุรฤทธิ์ไปกู้กับธนาคาร คุณวุฒิศักดิ์คุยกับคุณสุรฤทธิ์ว่าช่วงนี่แย่จังเฮีย ฝืดมาก ๆ งานไม่ค่อยเข้าเลย มีเพียงอาทิตย์ละเคส 2 เคส แต่ละเคสก็ไกลมากต้องวิ่งรถถึง 200 โล ซ้ำร้ายแต่ละเคสก็อนุมัติมั่ง ไม่อนุมัติมั่ง คุณสุรฤทธิ์จึงมอบเหรียญพ่อท่านกล่ำรุ่น 2 ให้ไปแขวนพร้อมกำชับว่าแขวนเพียงองค์เดียวและอธิษฐานขอให้พ่อท่านช่วย เวลาผ่านไป 3 วัน คุณวุฒิศักดิ์ โทรมาเล่าให้คุณสุรฤทธิ์ฟังว่า เพียงแค่ 3 วันมีเคสเข้ามาถึง 8 เคสและเป็นกรณีที่ไม่ต้องวิ่งไปไกลด้วย ผมนี่เขียนเรื่องส่งแทบไม่ทัน และที่แปลกมากก็คือบางเคสผมคิดว่าคงไม่ผ่าน ก็ได้แต่นึกในใจว่าผ่านแค่ 3-4 เคสก็โอเคแล้ว แต่เหลือเชื่อจริง ๆ ทุกเคสผ่านหมด เรื่องนี้ผมได้โทร.ยืนยันกับคุณวุฒิศักดิ์เอง
กรณีนี้คุณวุฒิศักดิ์เริ่มต้นด้วย ซ.ต.พ. และลงท้ายด้วย Q.E.D.แต่เรื่องยังไม่จบเพราะผู้จัดการเขตสงสัยว่าอยู่ ๆ ภายใน 3 วัน ทำไมมีเคสเข้ามาตั้ง 8 เคสจึงถามความเป็นไปกับคุณวุฒิศักดิ์ ๆ จึงเล่าให้ฟัง ผู้จัดการเขตจึงขอให้คุณวุฒิศักดิ์พาไปหาคุณสุรฤทธิ์เพื่อขอเช่าเหรียญรุ่นนี้มาใช้บ้าง คุณวุฒิศักดิ์เกรงใจคุณสุรฤทธิ์จึงไม่กล้าพาไปแต่ได้โทรบอก คุณสุรฤทธิ์จึงบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวฝากไปให้แกเหรียญนึง
สำหรับคุณวุฒิศักดิ์ ที่ผ่านมาแขวนพระหลายสำนัก พระสร้างใหม่ที่โด่งดังคนแห่ไปบูชา เขาก็ไปบูชามาหมด ราคาก็แพงกว่าเหรียญรุ่น 2 พ่อท่านกล่ำเสียอีก ปรากฏว่าไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่เหรียญที่ได้มาฟรี ๆ กลับช่วยให้เขาผ่านพ้นปัญหาอุปสรรคไปได้ ทางด้านคุณสุรฤทธิ์เองก็เลี่ยมเหรียญรุ่นนี้ที่บูชามา แจกให้กับคนใกล้ชิดและหลายคนที่เดีอดร้อนเพื่อต่อลมหายใจให้เดินไปข้างหน้าได้อีก เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ลำบากอย่างที่ทราบ ๆ กันอยู่
หลายท่านอาจจะคิดว่าเป็นเพียงกรณีเล็ก ๆ ไม่ได้เงินอะไรมาก เรื่องนี้คงต้องขออธิบายครับ การช่วยก็ต้องเป็นไปตามต้นทุนของคน ๆ นั้น กรณึที่ผมเล่าก็เป็นไปตามอาชีพของเขา ถ้าเขาขยันขันแข็ง รู้จักเก็บหอมรอมริบก็รวยได้ ขณะเดียวกันคนที่ทำธุรกิจลงทุนเป็นร้อยเป็นพันล้าน ถ้าเชื่อมั่นศรัทธาท่าน ท่านช่วยแต่ละเรื่องก็ต้องเป็นสิบเป็นร้อยล้าน แต่คนรวยคงไม่หันมาชายตามองเหรียญราคาหลักร้อยหรอกครับ อย่างว่าแหละครับคนทั่วไปในท้องถิ่นก็ยังไม่ค่อยมอง เหตุเพราะเป็นของราคาถูก ๆ กว่าของออกใหม่ที่ออกหลังจากเหรียญนี้ตั้ง 30 กว่าปี ทำให้ไม่มีใครเอาไปใช้ จึงไม่ได้รับรู้ถึงบารมีความศักดิ์สิทธิ์ของพ่อท่านกล่ำ
โดยส่วนตัวผมเชื่อมั่นในองค์พ่อท่านกล่ำ ว่าท่านเป็นผู้ทรงญาณบารมีระดับสูง มีพลังจิตเข้มขลัง ที่สำคัญคือทรงภูมิปัญญาชั้นสูงในเรื่องอักขระเลขยันต์ ท่านจึงทำให้ยันต์อิติโสแปดทิศที่หลังเหรียญของท่านเปล่งอานุภาพได้สูงสุด ในอตีตที่ผ่านมาผู้ที่ทำได้เข้มขลังมีอานุภาพสูงคือ ท่านสำเร็จลุน ยังมีอีกหลายเรื่องที่อยากจะกล่าวถีงท่าน แต่คงต้องพอแค่นี้ก่อนครับ
สุวัฒน์ เหมอังกูร
1 กรกฏาคม 2565
ประวัติหลวงพ่อกล่ำ วัดศาลาบางปู
หลวงพ่อกล่ำ ถาวโร วัดวิสุทธิยาราม(ศาลาบางปู) นครศรีธรรมราช อริยสงค์ เป้นพระสงค์ที่ให้กำเนิดยันต์ 8 ทิศ ที่เป็นราหู 8 ตน ผู้ก่อตั้งวัดวิสุธิยารามให้เป็นอารามได้ ทั้งพระสงค์และญาติโยมได้ประกอบศาสนกิจ ในทางพระพุทธศาสนา ได้ฉายาว่า “พระครูวิสุทธิจารี” ถือพรรมจรรย์ เพราะบวชเรียนตั้งแต่เป็นสามเณร, อุปสมบท ณ วัดจันพอ นครศรีธรรมราช แล้วบูรณะวัดชะเมาซึ่งสมัยนั้นเป็นวัดร้าง มาเป็นวัดที่ดังในปัจจุบัน แล้วมาก่อตั้งวัดวิสุทธิยาราม(ศาลาบางปู) นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2497 ท่านมรณะภาพ ปี2530 เป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนใน จ.นครศรีธรรมราช และจ.ใกล้เคียง
ประวัติ พระครูวิสุทธิจารี (พ่อท่านกล่ำ) วัดวิสุทธิยาราม (วัดศาลาบางปู)
ทวดชื่อ ขุนหลวง จารเรก ปู่ชื่อ ขุนศรี ย่าชื่อ นางอิ่ม โยมบิดาชื่อ นายหนูครุฑ โยมมารดาชื่อ นางแป้น คีรีนาถ โยมบิดา นายหนูครุฑ มีภรรยา 4 คน และมีบุตรธิดา 12คน พ่อท่านกล่ำ เป็นบุตรคนเดียวของ โยมมารดาแป้น คีรีนนาถ + บ้านเดิมอยู่บ้านดวด (ลายสาย) พระ ครูวิสุทธิจารี บวชสามเณรที่วัดจันพอ ท่านเคยได้รับพระราชทินนาม “พระครูวิสุทธิจารี” ซึ่งแปลว่า ผู้รักษาซึ่งพรหมจรรย์ อันเป็นราชทินนามตกทอดมาจาก พระครูวิสุทธิจารี (พ่อท่านพุ่มเฒ่า ) หรือที่รู้จักกันในนาม พ่อท่านพุ่มวัดจันพอ ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของ พระครูวิสุทธิจารี (พ่อท่านกล่ำ)
ต่อมาเมื่อปี 2497 ได้จัดตั้งเป็นสำนักสงฆ์ที่บ้านศาลาบางปู จนได้รับพระราชทาน พัทเสมา เมื่อปี พ.ศ. 2517 พระครูวิสุทธิจารี ได้พัฒนา สร้างเสนาสนะ ร่วมกับญาติโยม ตลอดจนถึงปี พ.ศ. 2530 + พระครูวิสุทธิจารี ได้มรณภาพลง ขณะอายุได้ 96 ปี ซึ่งในขณะนี้รูปสังขารของพระครูวิสุทธิจารี ก็ยังคงเก็บอยู่ในมณฑป วัดวิสุทธิยาราม ซึ่งเส้นเกศา หรืออวัยวะอื่น ๆ ก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิม
ซึ่งญาติโยมที่รู้ภูมิหลังของท่าน ต่างก็คิดว่า ท่านเป็นผู้รักษาพรหมจรรย์เป็นอริยสงฆ์ซึ่งอยู่ในข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
รูป สังขารของท่านจึงอยู่ในรูปเดิม ปัจจุบันพระครูเมตตาคุณากร(เปลี่ยน กนฺตสีโร) ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส องค์ปัจจุบัน ได้ร่วมก่อสร้างโบสถ์ ต่อเนื่องจาก พระครูวิสุทธิจารี
จนแล้วเสร็จ และทำการยกช่อฟ้าขึ้นในปี พ.ศ. 2535
ผู้เข้าชม
86 ครั้ง
ราคา
750
สถานะ
เปิดให้บูชา
โดย
เจนพระเครือง
ชื่อร้าน
บารมีบุญพระเครื่อง
ร้านค้า
baramebun.99wat.com
โทรศัพท์
0910162844
ไอดีไลน์
rit3009
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกสิกรไทย / 008-8-93615-9
เศียรพ่อแก่ รุ่นบรมครูเทงฤทธิ์
พระผงหลวงปู่เฮง ปภาโส วัดบ้านด
เหรียญรุ่นสามพ่อท่านกล่ำ วัดศา
เหรียญหล่อหลวงปู่มีชัย กามฉินโ
สมเด็จโลหะ พระอาจารย์นำ วัดท่า
ล็อกเกตเหนือเมฆ หลวงปู่สิงห์ ธ
เหรียญพญาเต่าเรือน หลวงพ่อพัฒน
พระผงกฐิน60 ล-ป-บุญส่ง ฐิตสาโร
รูปหล่อรึ่นแรก หลวงปู่เฉย วัดน
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
ลงพระฟรี
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ลืมรหัสผ่าน
ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
ชาวานิช
ชา วานิช
เปียโน
เทพจิระ
โจ๊ก ป่าแดง
Popgomes
ศิลาแลง
จิ๊บพุทธะมงคล
kotbangphlat79
โกหมู
stp253
ngamkamol
hra7215
ทองธนบุรี
Erawan
bruceAmulets
art2
หริด์ เก้าแสน
sirikorn
บี บุรีรัมย์
ส่องพระเครื่อง789
Kshop
บารมีครูบาชัยวงศ์
lhorsraluang
เมืองมรดก พระเครื่อง
ฅนเล่นพระ
ไอซ์ชัยนาท
Zomlazzali
หนึ่งโนนสูง
lord
ผู้เข้าชมขณะนี้ 1390 คน
เพิ่มข้อมูล
เหรียญรุ่นสอง สร้างโบสถ์ พ่อท่านกล่ำ วัดศาลาบางปู เนื้อทองแดงรมดำ
ส่งข้อความ
ชื่อพระเครื่อง
เหรียญรุ่นสอง สร้างโบสถ์ พ่อท่านกล่ำ วัดศาลาบางปู เนื้อทองแดงรมดำ
รายละเอียด
ซ.ต.พ. ( Q.E.D. ) เรื่องความศักดิ์สิทธิ์
เหรียญรุ่น 2 พ่อท่านกล่ำ วัดศาลาบางปู
สมัยเมื่อเรียนวิชาเรขาคณิต พอตอบเสร็จจะลงท้ายด้วย ซ.ต.พ. ซึ่งอาจารย์บอกว่าคือคำย่อของคำว่า ซึ่งต้องพิสูจน์ แต่มีนักวิชาการหลายคนคัดค้านว่า คำเต็มนี้ไม่ถูกเนื่องจากคำย่อนี้แปลมาจาก Q.E.D. ซึ่งเป็นคำย่อของภาษาละตินที่แปลว่า ได้พิสูจน์เสร็จสิ้นแล้วเพราะฉะนั้น คำย่อภาษาไทย (ซ.ต.พ.) ควรจะย่อมาจาก ซึ่งตามที่ได้พิสูจน์แล้ว
สำหรับผมเห็นว่าใช้ได้ทั้งคู่ สำหรับความหมายของภาษาละตินที่ว่า ได้พิสูจน์แล้ว ถ้าคุณเชื่อก็จบ ส่วนความหมายของไทยที่ว่า ซึ่งต้องพิสูจน์ เป็นคำพูดของคนตอบ คนให้โจทย์จะตรวจว่าถูกหรือไม่ต้องไปพิสูจน์ดู ทีนี้หลายคนคงสงสัยว่าผมนึกสนุกอะไร อยู่ ๆ ก็มาคุยเรื่องเรขาคณิต ขอเรียนว่าไม่ได้คึกคะนองอะไรหรอกครับ ขอถือโอกาสอรรถาธิบายเลยครับ
ที่กล่าวมาเพื่อใช้คำย่อทั้งสองคำนี้สรุปเป็นคำตอบถึงเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของเหรียญสร้างโบสถ์หรือเหรียญรุ่น 2 ของพ่อท่านกล่ำ วัดศาลาบางปู หรือที่ผมเรียกว่ารุ่นช่วยทำมาหากิน คือต้องใช้ทั้ง Q.E.D. และ ซ.ต.พ. นั่นคือผ่านการพิสูจน์มาแล้ว ส่วนคนที่ต้องการแสวงหาของดีของวิเศษ เพื่อนำมาใช้แต่ไม่แน่ใจว่าศักดิ์สิทธิ์จริงก็ต้องพิสูจน์
ตอนที่แล้วได้เล่าประสบการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าเหรียญรุ่นนี้ศักดิ์สิทธิ์จริง แต่แค่คนเดียว ซึ่งน้ำหนักอาจจะน้อย ตอนนี้ผมจะเล่าถึงคนที่ช่วยพิสูจน์อีกคนคือ คุณวุฒิศักดิ์ สุกใส เป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัท ลิสซิ่ง ในจังหวัดสุรินทร์ สนิทสนมกับคุณสุรฤทธิ์ ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินกู้ที่ผมเล่าไปเมื่อตอนที่แล้วนะครับเพราะกรณีนั้นคุณสุรฤทธิ์ไปกู้กับธนาคาร คุณวุฒิศักดิ์คุยกับคุณสุรฤทธิ์ว่าช่วงนี่แย่จังเฮีย ฝืดมาก ๆ งานไม่ค่อยเข้าเลย มีเพียงอาทิตย์ละเคส 2 เคส แต่ละเคสก็ไกลมากต้องวิ่งรถถึง 200 โล ซ้ำร้ายแต่ละเคสก็อนุมัติมั่ง ไม่อนุมัติมั่ง คุณสุรฤทธิ์จึงมอบเหรียญพ่อท่านกล่ำรุ่น 2 ให้ไปแขวนพร้อมกำชับว่าแขวนเพียงองค์เดียวและอธิษฐานขอให้พ่อท่านช่วย เวลาผ่านไป 3 วัน คุณวุฒิศักดิ์ โทรมาเล่าให้คุณสุรฤทธิ์ฟังว่า เพียงแค่ 3 วันมีเคสเข้ามาถึง 8 เคสและเป็นกรณีที่ไม่ต้องวิ่งไปไกลด้วย ผมนี่เขียนเรื่องส่งแทบไม่ทัน และที่แปลกมากก็คือบางเคสผมคิดว่าคงไม่ผ่าน ก็ได้แต่นึกในใจว่าผ่านแค่ 3-4 เคสก็โอเคแล้ว แต่เหลือเชื่อจริง ๆ ทุกเคสผ่านหมด เรื่องนี้ผมได้โทร.ยืนยันกับคุณวุฒิศักดิ์เอง
กรณีนี้คุณวุฒิศักดิ์เริ่มต้นด้วย ซ.ต.พ. และลงท้ายด้วย Q.E.D.แต่เรื่องยังไม่จบเพราะผู้จัดการเขตสงสัยว่าอยู่ ๆ ภายใน 3 วัน ทำไมมีเคสเข้ามาตั้ง 8 เคสจึงถามความเป็นไปกับคุณวุฒิศักดิ์ ๆ จึงเล่าให้ฟัง ผู้จัดการเขตจึงขอให้คุณวุฒิศักดิ์พาไปหาคุณสุรฤทธิ์เพื่อขอเช่าเหรียญรุ่นนี้มาใช้บ้าง คุณวุฒิศักดิ์เกรงใจคุณสุรฤทธิ์จึงไม่กล้าพาไปแต่ได้โทรบอก คุณสุรฤทธิ์จึงบอกว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวฝากไปให้แกเหรียญนึง
สำหรับคุณวุฒิศักดิ์ ที่ผ่านมาแขวนพระหลายสำนัก พระสร้างใหม่ที่โด่งดังคนแห่ไปบูชา เขาก็ไปบูชามาหมด ราคาก็แพงกว่าเหรียญรุ่น 2 พ่อท่านกล่ำเสียอีก ปรากฏว่าไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่เหรียญที่ได้มาฟรี ๆ กลับช่วยให้เขาผ่านพ้นปัญหาอุปสรรคไปได้ ทางด้านคุณสุรฤทธิ์เองก็เลี่ยมเหรียญรุ่นนี้ที่บูชามา แจกให้กับคนใกล้ชิดและหลายคนที่เดีอดร้อนเพื่อต่อลมหายใจให้เดินไปข้างหน้าได้อีก เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ลำบากอย่างที่ทราบ ๆ กันอยู่
หลายท่านอาจจะคิดว่าเป็นเพียงกรณีเล็ก ๆ ไม่ได้เงินอะไรมาก เรื่องนี้คงต้องขออธิบายครับ การช่วยก็ต้องเป็นไปตามต้นทุนของคน ๆ นั้น กรณึที่ผมเล่าก็เป็นไปตามอาชีพของเขา ถ้าเขาขยันขันแข็ง รู้จักเก็บหอมรอมริบก็รวยได้ ขณะเดียวกันคนที่ทำธุรกิจลงทุนเป็นร้อยเป็นพันล้าน ถ้าเชื่อมั่นศรัทธาท่าน ท่านช่วยแต่ละเรื่องก็ต้องเป็นสิบเป็นร้อยล้าน แต่คนรวยคงไม่หันมาชายตามองเหรียญราคาหลักร้อยหรอกครับ อย่างว่าแหละครับคนทั่วไปในท้องถิ่นก็ยังไม่ค่อยมอง เหตุเพราะเป็นของราคาถูก ๆ กว่าของออกใหม่ที่ออกหลังจากเหรียญนี้ตั้ง 30 กว่าปี ทำให้ไม่มีใครเอาไปใช้ จึงไม่ได้รับรู้ถึงบารมีความศักดิ์สิทธิ์ของพ่อท่านกล่ำ
โดยส่วนตัวผมเชื่อมั่นในองค์พ่อท่านกล่ำ ว่าท่านเป็นผู้ทรงญาณบารมีระดับสูง มีพลังจิตเข้มขลัง ที่สำคัญคือทรงภูมิปัญญาชั้นสูงในเรื่องอักขระเลขยันต์ ท่านจึงทำให้ยันต์อิติโสแปดทิศที่หลังเหรียญของท่านเปล่งอานุภาพได้สูงสุด ในอตีตที่ผ่านมาผู้ที่ทำได้เข้มขลังมีอานุภาพสูงคือ ท่านสำเร็จลุน ยังมีอีกหลายเรื่องที่อยากจะกล่าวถีงท่าน แต่คงต้องพอแค่นี้ก่อนครับ
สุวัฒน์ เหมอังกูร
1 กรกฏาคม 2565
ประวัติหลวงพ่อกล่ำ วัดศาลาบางปู
หลวงพ่อกล่ำ ถาวโร วัดวิสุทธิยาราม(ศาลาบางปู) นครศรีธรรมราช อริยสงค์ เป้นพระสงค์ที่ให้กำเนิดยันต์ 8 ทิศ ที่เป็นราหู 8 ตน ผู้ก่อตั้งวัดวิสุธิยารามให้เป็นอารามได้ ทั้งพระสงค์และญาติโยมได้ประกอบศาสนกิจ ในทางพระพุทธศาสนา ได้ฉายาว่า “พระครูวิสุทธิจารี” ถือพรรมจรรย์ เพราะบวชเรียนตั้งแต่เป็นสามเณร, อุปสมบท ณ วัดจันพอ นครศรีธรรมราช แล้วบูรณะวัดชะเมาซึ่งสมัยนั้นเป็นวัดร้าง มาเป็นวัดที่ดังในปัจจุบัน แล้วมาก่อตั้งวัดวิสุทธิยาราม(ศาลาบางปู) นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2497 ท่านมรณะภาพ ปี2530 เป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนใน จ.นครศรีธรรมราช และจ.ใกล้เคียง
ประวัติ พระครูวิสุทธิจารี (พ่อท่านกล่ำ) วัดวิสุทธิยาราม (วัดศาลาบางปู)
ทวดชื่อ ขุนหลวง จารเรก ปู่ชื่อ ขุนศรี ย่าชื่อ นางอิ่ม โยมบิดาชื่อ นายหนูครุฑ โยมมารดาชื่อ นางแป้น คีรีนาถ โยมบิดา นายหนูครุฑ มีภรรยา 4 คน และมีบุตรธิดา 12คน พ่อท่านกล่ำ เป็นบุตรคนเดียวของ โยมมารดาแป้น คีรีนนาถ + บ้านเดิมอยู่บ้านดวด (ลายสาย) พระ ครูวิสุทธิจารี บวชสามเณรที่วัดจันพอ ท่านเคยได้รับพระราชทินนาม “พระครูวิสุทธิจารี” ซึ่งแปลว่า ผู้รักษาซึ่งพรหมจรรย์ อันเป็นราชทินนามตกทอดมาจาก พระครูวิสุทธิจารี (พ่อท่านพุ่มเฒ่า ) หรือที่รู้จักกันในนาม พ่อท่านพุ่มวัดจันพอ ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของ พระครูวิสุทธิจารี (พ่อท่านกล่ำ)
ต่อมาเมื่อปี 2497 ได้จัดตั้งเป็นสำนักสงฆ์ที่บ้านศาลาบางปู จนได้รับพระราชทาน พัทเสมา เมื่อปี พ.ศ. 2517 พระครูวิสุทธิจารี ได้พัฒนา สร้างเสนาสนะ ร่วมกับญาติโยม ตลอดจนถึงปี พ.ศ. 2530 + พระครูวิสุทธิจารี ได้มรณภาพลง ขณะอายุได้ 96 ปี ซึ่งในขณะนี้รูปสังขารของพระครูวิสุทธิจารี ก็ยังคงเก็บอยู่ในมณฑป วัดวิสุทธิยาราม ซึ่งเส้นเกศา หรืออวัยวะอื่น ๆ ก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิม
ซึ่งญาติโยมที่รู้ภูมิหลังของท่าน ต่างก็คิดว่า ท่านเป็นผู้รักษาพรหมจรรย์เป็นอริยสงฆ์ซึ่งอยู่ในข้อปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
รูป สังขารของท่านจึงอยู่ในรูปเดิม ปัจจุบันพระครูเมตตาคุณากร(เปลี่ยน กนฺตสีโร) ซึ่งเป็นเจ้าอาวาส องค์ปัจจุบัน ได้ร่วมก่อสร้างโบสถ์ ต่อเนื่องจาก พระครูวิสุทธิจารี
จนแล้วเสร็จ และทำการยกช่อฟ้าขึ้นในปี พ.ศ. 2535
ราคาปัจจุบัน
750
จำนวนผู้เข้าชม
87 ครั้ง
สถานะ
เปิดให้บูชา
โดย
เจนพระเครือง
ชื่อร้าน
บารมีบุญพระเครื่อง
URL
http://www.baramebun.99wat.com
เบอร์โทรศัพท์
0910162844
ID LINE
rit3009
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกสิกรไทย / 008-8-93615-9
กำลังโหลดข้อมูล
หน้าแรกลงพระฟรี